24 พฤษภาคม 2560

นี่หรือเกษตรกรแห่งอนาคต ? แต่งตัวดี ใส่สูทผูกไทด์ เก็บผักชิลล์ ชิลล์



แนวคิดของเกษตรในร่ม (Indoor Agriculture) การทำฟาร์มแนวดิ่งในอาคาร (Vertical Farm) นั้นเกิดมานานแล้ว แต่ก็ไม่ค่อยมีการสร้างกันจริงๆ ในเชิงพาณิชย์ เพราะถูกมองว่าไม่คุ้มค่า .. มีแต่แนวคิด หรือ คนออกแบบมาสวยๆ เก๋ๆ เพื่อทำประกวดกัน หรือไม่ก็ใช้โฆษณาเพื่อหวังบางอย่าง จนกระทั่งใน 1-2 ปีมานี้เองครับ ที่เกิดกระแสบูมโครงการก่อสร้างโรงเรือนปลูกผักแนวดิ่ง กันอย่างมากมาย และกำลังเป็นเทรนด์ที่ร้อนแรงสุดๆ ในประเทศสหรัฐอเมริกา โดยเฉพาะในปีนี้ เริ่มมีการก่อสร้างเรือนปลูกผักแนวดิ่งในหลาย ๆ เมือง แข่งกันเลยทีเดียว ... และในปีที่ผ่านมา สหรัฐอเมริกาถึงกับจัดโชว์สถาปัตยกรรมเกษตรแนวดิ่งในงาน เวิลด์เอ็กซ์โป ที่เมืองมิลาน ประเทศอิตาลี กันเลยครับ
..
คนไทยเราอาจจะมองว่ามันไม่ค่อยเข้าท่าหรือไม่คุ้ม ... แต่ผู้เชี่ยวชาญด้านอนาคตศาสตร์บอกว่า เมืองใหญ่ทุกเมืองในโลกนี้ อีกหน่อยก็จะมีฟาร์มแนวดิ่งกันเต็มไปหมดครับ !! เมื่อไม่นานมานี้ นครเซี่ยงไฮ้ ก็มีการวางแผนที่จะสร้างคอมเพล็กซ์สำหรับเกษตรกรรมในร่มขนาดใหญ่ในเมืองด้วยนะครับ
..
Vertical Farm หรือ ฟาร์มแนวดิ่ง เป็นแนวคิดในการทำไร่ทำนาในแนวตั้ง โดยใช้พื้นที่บนอาคารสูง และที่สำคัญเป็นการทำการเกษตรในเมือง ที่มีประชากรอาศัยอยู่หนาแน่น ผู้ที่บุกเบิกแนวคิดนี้คือ ศาสตราจารย์ ดิกสัน เดสพอมเมียร์ (Dickson Despommier) แห่งมหาวิทยาลัยโคลัมเบีย .
การทำไร่บนตึกสูงนี้ มีข้อดีหลายอย่างและสามารถช่วยแก้ปัญหาสิ่งแวดล้อมที่มนุษยชาติกำลังเผชิญ ดังต่อไปนี้ครับ
.
- ในอนาคตอีกไม่นาน ประชากรของโลกส่วนใหญ่จะอาศัยอยู่ในเมือง ประมาณกันว่าในปี ค.ศ. 2050 ประชากร 80% ของโลก (ประมาณ 9 พันล้านคน) จะอาศัยอยู่ในเมือง
.
- แต่การเกษตรในปัจจุบันกระทำกันในพื้นที่ชนบท ห่างไกลจากเมือง นั่นหมายถึงต้องมีการขนส่งมาถึงผู้บริโภค ทำให้ต้องใช้พลังงานมาก รวมทั้งค่าใช้จ่ายในการดูแลโครงสร้างพื้นฐาน (ถนน หนทาง) ไปกับจำนวนประชากรที่เบาบาง ที่ต้องทำหน้าที่แรงงานในภาคเกษตร


- การย้ายไร่นามาอยู่บนอาคารในเมือง เป็นการผลิตที่ใกล้ผู้บริโภค เป็นการผลิตอาหารที่มีประสิทธิภาพ สามารถควบคุมให้มีการรบกวนต่อสิ่งแวดล้อมให้น้อยที่สุด เราสามารถคืนผืนดินสู่ธรรมชาติ คืนพื้นที่เกษตรกรรมให้กลับกลายเป็นผืนป่าอีกครั้ง ซึ่งจะเป็นแหล่งกักเก็บคาร์บอน (Carbon Storage) ป่าเหล่านี้จะช่วยดูดซับคาร์บอนไดออกไซด์จากชั้นบรรยากาศช่วยลดภาวะโลกร้อนได้ เมื่อมีผืนป่า สัตว์ป่าก็จะกลับคืนมาอีกครั้ง
.
- จะเกิดแรงงานในภาคเกษตรรูปแบบใหม่ ในกระบวนการผลิตอาหารในเมือง จะเกิดฟาร์มเกษตรบนอาคารขึ้นมากมายในเมือง เพื่อเลี้ยงประชากรในเมือง
.
- เราสามารถปลูกพืชได้ทั้งปีโดยไม่ต้องกังวลกับสภาพภูมิอากาศที่เปลี่ยนแปลงอีกต่อไป หากเรายังทำเกษตรแบบเดิม ก็มีแต่จะต้องเพิ่มพื้นที่เกษตรในแนวราบ เพื่อจะหล่อเลี้ยงประชากรที่เพิ่มขึ้นของโลก ทั้งนี้โลกของเราแทบจะไม่เหลือพื้นที่ให้ทำการเกษตรได้อีกแล้ว นอกเสียจากจะต้องยอมสูญเสียผืนป่าเขตร้อนอันมีค่า (ตัวอย่าง ป่าอะเมซอน และ ป่าทุ่งใหญ่นเรศวร)
.
ในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา แนวคิดของ Vertical Farm ได้มีการนำไปปฏิบัติทั้งในขั้นของการทดลอง หรือ แม้แต่ในเชิงการค้า เช่น ในประเทศเกาหลี ญี่ปุ่น สิงคโปร์ สวีเดน หรือในประเทศสหรัฐอเมริกาเจ้าของความคิดเอง ในประเทศสิงคโปร์เองนั้น มีแนวคิดที่ จะทำให้เกิด Vertical Farm ทั่วทั้งเกาะเลยทีเดียว เพื่อเป็นการสร้างความมั่นคงทางด้านอาหารให้แก่ประเทศ
..
รอชมกันต่อไปครับผม
..
อัพเดตความก้าวหน้าทางด้านเกษตรได้ทุกวัน กับ เพจเกษตรอัจฉริยะ ... https://www.facebook.com/smartfarmthailand/
Credit : Many Thanks to .....
- Picture from http://architizer.com/blog/pasona-hq-urban-farming-kono-designs/#.UVYgGL9uGM
- Picture from http://eandt.theiet.org/magazine/2015/12/farming-in-cities.cfm
- Picture from https://www.pinterest.com/pin/506655026799634699/