19 ตุลาคม 2556

อนาคตของอ้อย



(Credit - Picture from http://www.wisegeek.com/)

ในจำนวนหุ้นเกษตรนั้น หุ้นที่ผมชอบมากที่สุดคือหุ้นน้ำตาล เพราะผมมีความเชื่อว่าหุ้นตัวนี้จะไม่ทำร้ายผมอย่างแน่นอนครับ ในพอร์ตหุ้นของลูกชายผมคือน้องโมเลกุล มีหุ้นอยู่ 2 ตัว ซึ่งตัวหนึ่งเป็นหุ้นน้ำตาล เขาจะเอาเงินในกระปุกออมสินทะยอยสะสมหุ้นตัวนี้ ซึ่งเป็นการลงทุนที่ต้องอาศัยเวลานับ 10 ปีครับ

อย่างไรก็ตามในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา ราคาน้ำตาลในตลาดโลกได้ตกต่ำอย่างน่าใจหาย ราคาน้ำตาลเบอร์ 11 ที่จะส่งมอบ (Futures) ในเดือน มี.ค. 2557 ตกต่ำลงไปเหลือปอนด์ละ 17 เซ็นต์ ในเดือนกันยายน 2556 ที่ผ่านมา ทำเอาหุ้นน้ำตาลของผมต่ำติดฟลอร์

แต่แล้ว ..... ในช่วงไม่มีสัปดาห์ที่ผ่าน มันกลับเริ่มทะยานกลับขึ้นอย่างรวดเร็วครับ  ผมจึงเชื่อว่า จุดต่ำสุดของราคาน้ำตาลในตลาดโลกนั้น ได้ผ่านไปแล้ว

วันนี้ ผมขอนำตัวเลขบางอย่างเกี่ยวกับน้ำตาลมาเล่าสู่กันฟังนะครับ

- น้ำตาลที่ผลิตได้ในโลกเรานี้ 70% มาจากอ้อย อีก 30% มาจากบีท

- อ้อยเป็นพืชที่มีประสิทธิภาพในการเปลี่ยนพลังงานแสงอาทิตย์เป็นคาร์โบไฮเดรตมากที่สุด คือ 8% ในขณะที่ข้าวโพดทำได้เพียง 1%

- อ้อยจึงเป็นพืชที่เหมาะสมที่สุดในการผลิตเอธานอล

- บราซิลผลิตน้ำตาลมากที่สุดในโลกคือ 35.75 ล้านตัน (ฤดูกาล 2011/2012) อินเดีย 28.3 อียู 16.74 จีน 11.84 และไทย 10.17 

- ถึงแม้ไทยจะผลิตน้ำตาลได้อันดับ 5 ของโลก แต่เราส่งออกอันดับ 2 เลยครับ เหมือนข้าวนั่นแหล่ะครับ ที่เราไม่ใช่ผู้ผลิตอันดับหนึ่ง แต่เราส่งออกเยอะกว่าเพื่อนไงครับ

- โลกมีแต่จะบริโภคน้ำตาลมากขึ้นเรื่อยๆ จาก 166 ล้านตันในปี 2012 ไปเป็น 203 ล้านตันในปี 2021 โดยคนเอเชียจะเป็นหัวเรี่ยวหัวแรงสำคัญ ในการกินน้ำตาลเลยครับ โดยจะเพิ่มจาก 75 เป็น 97 ล้านตันต่อปี

- ประเทศไทยจะเป็นประเทศอันดับ Top Tree ในการส่งออกน้ำตาล โดยจะมีมาร์เก็ตแชร์เพิ่มจาก 11% ไปเป็น 14% ในอีก 8 ปีข้างหน้า (ไม่รู้ฝรั่งรู้ได้ไง ว่าเรากำลังจะขยายพื้นที่เพาะปลูกอ้อย โดยนโยบายการจัดทำโซนนิ่งเกษตรกรรม)

เห็นอย่างนี้แล้ว จะไม่ให้พูดได้ยังไงล่ะครับว่า อนาคตของอ้อยนั้นดีแน่