09 กุมภาพันธ์ 2552

The World without Us - ถ้าโลกนี้ไม่มีเรา (ตอนที่ 3)


โลกใบนี้หากไม่มีมนุษย์ซะอย่าง ภายในเวลาเพียง 20 ปีเท่านั้น ทุกอย่างที่มนุษย์เคยก่อร่างสร้างไว้ก็จะถูกธรรมชาติกลืนกินไปอย่างรวดเร็วครับ เพลงรักโรแมนติกทั้งหลายที่วาดฝันเอาไว้ว่า ถ้าหากโลกนี้เหลือเราเพียง 2 คน ก็คงจะมีความสุขอย่างล้นเหลือ เป็นเพียงแค่การวาดฝันที่เว่อร์ๆ ครับ เพราะในความเป็นจริง ชาย-หญิงคู่นี้จะอาศัยอยู่บนซากปรักหักพังที่รอวันถูกทำลายโดยธรรมชาติ


Alan Weisman ได้ค้นคว้าเพื่อตอบคำถามนี้ครับว่า หากมนุษย์หายไปจากโลกนี้ จะเกิดอะไรขึ้นกับสิ่งต่างๆที่มนุษย์สร้างทิ้งเอาไว้ อาคารบ้านเรือน ถนนหนทาง โครงสร้างต่างๆ จะเปลี่ยนแปลงไปอย่างไร ชีวิตอื่นๆ ที่เหลืออยู่จะมีอะไรเกิดขึ้นต่อไปบ้าง เขาได้เดินทางไปทั่วโลกเพื่อไปสัมภาษณ์นักวิทยาศาสตร์ ผู้เชี่ยวชาญในศาสตร์ต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นนักฟิสิกส์ นักธรณีวิทยา นักปฐพีวิทยา วิศวกร ศิลปิน นักสัตววิทยา นักชีววิทยา นักสมุทรศาสตร์ นักฟิสิกส์อวกาศ รวมไปถึงนักธรรมต่างๆ แม้แต่องค์ดาไล ลามะ ผู้นำจิตวิญญาณในพุทธศาสนามหายาน เนื่องจาก Weisman เป็นศาสตราจารย์สาขา Journalism and Latin American Studies อยู่ที่ University of Arizona ซึ่งเขาต้องสอนเพียงแค่ 1 วิชาในช่วงฤดูใบไม้ผลิเท่านั้น เวลาที่เหลือเขาจึงว่างและสามารถเดินทางท่องเที่ยว เพื่อไปทำงานวิจัยในต่างแดนได้ทั่วโลก เขาได้เดินทางไปศึกษา DMZ หรือเขตปลอดทหาร ที่กั้นอยู่ระหว่างเกาหลีเหนือกับเกาหลีใต้ ซึ่งดินแดนนั้นเป็นที่ซึ่งมนุษย์ไม่ได้เข้าไปอยู่นานแล้ว โดยเขาได้ใช้ตัวอย่างของอารยธรรมมายา ที่หายสาบสูญไปทั้งๆที่เคยเป็นอาณาจักรที่รุ่งเรืองที่สุดยุคหนึ่ง เมือง Chernobyl ในประเทศยูเครนหลังถูกทอดทิ้งเพียง 20 ปี Weisman ได้ข้อสรุปว่าหากมนุษย์เราหายไป โลกจะกลับกลายไปเป็นป่าที่สมบูรณ์ ภายในระยะเวลาไม่เกิน 500 ปี เหลือเพียงแต่พวกกากกัมมันตภาพรังสี พลาสติก กับรูปปั้นหน้าประธานาธิบดีสหรัฐ 4 ท่านที่แกะสลักจากหน้าผาหินแกรนิตที่ Mount Rushmore เท่านั้นที่จะเหลือเป็นหลักฐานความมีอยู่ของมนุษย์ไปอีกนาน

International Conference on Innovations of Agricultural Food and Renewable Energy Productions for Mankind


ผลจากพิษเศรษฐกิจถดถอยซึ่งกำลังลุกลามไปทั่วโลก ได้เริ่มส่งผลต่อวงการวิทยาศาสตร์แล้วครับ ตัวผมเองก็ยกเลิกการเดินทางไปประชุมต่างประเทศเกือบทั้งหมดในปี 2009 นี้ หลายๆท่านก็คงทำคล้ายๆกัน ช่วงนี้ผมจึงพยายามนำการประชุมระดับนานาชาติที่จัดขึ้นในประเทศไทย การประชุมเหล่านี้ก็น่าจะมีคุณภาพพอที่จะชดเชยการไปประชุมในต่างประเทศได้บ้างครับ วันนี้ผมขอแนะนำการประชุมที่มีชื่อว่า International Conference on Innovations of Agricultural Food and Renewable Energy Productions for Mankind ซึ่งมีชื่อเป็นภาษาไทยว่า การประชุมวิชาการสมาคมวิศวกรรมเกษตรแห่งประเทศไทยครั้งที่ 10 "นวัตกรรมการผลิตทางการเกษตร อาหาร และพลังงานทดแทน เพื่อมนุษยชาติ ซึ่งจะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 1-3 เมษายน 2552 นี้ ณ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี

หัวข้อประชุมที่เขาสนใจก็มี



  • Agricultural engineering
  • Agricultural systems
  • Agricultural waste management
  • Agro-industry
  • Electronics in agriculture
  • Energy in agriculture
  • Ergonomics
  • Food engineering and biotechnology
  • Power and machinery
  • Soil and water engineering
  • Structures and environment
  • Terramechanics

ท่ามกลางวิกฤตก็มีโอกาสอยู่เสมอครับ และนี่อาจเป็นโอกาสให้นักวิจัยไทยได้แลกเปลี่ยน และรู้จักการทำงานข้ามศาสตร์กันมากขึ้นครับ .....